ลังกาหลวง อลังการ แห่งขุนเขา - ตอนที่ 4 วันที่สาม จากลังกาหลวง สู่ผาโง้ม สิ้นสุดการเดินทาง ที่สถานีทวนสัญญาณ
วันนี้เป็นวันสุดท้าย เราต้องเดินทางไกล จากลังกาหลวง ผ่าน ผาโง้ม สิ้นสุดการเดินทางที่ สถานีทวนสัญญาณ เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีเวลา 4 วัน 3 คืน เขาจะหยุดพักค้างคืนสุดท้ายที่ บริเวณผาโง้ม แต่สำหรับการเดินทางของเราจะเดินยาวจนถึง
เห็นไกลนั่นก็ สถานีทวนสัญญาณ
แต่สำหรับการเดินทางของเราจะเดินยาวจนถึง สถานีทวนสัญญาณเลยเส้นทางนับจากนี้ไป หลังจากที่ผ่านผาโง้มแล้ว จะเป็นการเดินเขาตลอด ซึ่งก็ยังคงเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าคา เราออกเดินทางกันประมาณ 9 โมงกว่าเล็กน้อย น้ำค้างที่เกาะตามยอดหญ้า ยังไม่ทันเหือดแห้งไป ส่งผลให้ ขากางเกงของทุกคน เปียกชุมไปด้วยน้ำค้างของคืนที่ผ่านมา เรายังคงลุยป่าหญ้าคาต่อไป วันนี้เป็นวันที่ได้ทดลองปฏิบัติการเดินลงเขาอย่างเต็มที่ หลังจากเรียนทฤษฎีมาแล้ว ก่อนที่จะลงเขา เราต้องผ่านผาโง้ม ไปให้ได้ก่อน
ความใกล้ไกลของการเดินผ่านป่า ไม่สามารถกะระยะได้ด้วยสายตาของคนเมือง เรามองเห็นผาโง้ม อยู่ไกลแสนไกล ที่เบื้องหน้า แต่ “นิต” กลับบอกว่า ไม่ไกลหรอกพี่ เดี๋ยวก็ถึง และก็เป็นจริงดังที่นิตบอก เราใช้เวลาไม่นาน ก็มาถึงเชิงเขา และในบางครั้งเราเห็นจุดหมายปลายทางอยู่ตรงหน้า แต่กลับต้องใช้เวลานานแสนนานกว่าจะไปให้ถึง
ในที่สุดเราก็มาถึงเชิงดอยและพร้อมที่จะขึ้นสู่ผาโง้ม ที่สูงชันอีกครั้ง การเดินขึ้นผาโง้มง่าย และไม่อันตรายเท่าไรนัก เมื่อเปรียบเทียบกัน เส้นทางขึ้นดอยลังกาน้อย แต่ก็เหนื่อยเอาการ เราถึงกับต้องใส่เกียร์โฟล์ (ใช้มือช่วยในการปีนป่าย ) เพื่อพาตัวเองให้ขึ้นไปถึงบนยอดเขา เมื่อผ่านผาโง้ม มาได้ คราวนี้ก็เป็นทางลงอย่างเดียวและแน่นอน เส้นทางก็ยังคงเต็มไปด้วยทะเลหญ้าคา ระหว่างทาง เราหยุดชมต้นกุหลาบพันปี ที่ออกดอกบานสะพรั่ง อวดโฉมเป็นรางวัลแด่นักท่องเที่ยวที่อุตส่าห์ ดั่นดั้นเดินทางมาพิชิตยอดดอยลังกาหลวง
กุหลาบพันปี
หลังจากเดินออกจากผาโง้มมาไม่นาน ก็ถึงบริเวณที่ตั้งแคมป์พักแรม เราพักรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ก่อนออกเดินทางต่อไป เส้นทางลงเขาเป็นเส้นทางแคบๆ ที่อยู่บนสันเขาลาดชัน และลื่น สร้างความลำบากให้แก่นักท่องเที่ยวมือใหม่หัดเดินอย่างพวกเราเป็นอันมาก ทางเดินนั้นลื่นเสียจนทำให้เราคิดว่า ไหนไหน ก็ลื่นขนาดนี้แล้ว ก็ไหลมันไปเสียเลย ให้เหมือนกับเล่นกระดานลื่นสมัยเด็ก
เราทรุดตัวลงนั่งยองๆ ทิ้งน้ำหนักลง และปล่อยให้ รองเท้าพาเราไป พร้อมกับ ใช้มือ ยึดจับ หญ้าคา ไปตลอด อืม มันก็สนุกไม่เลว เลยล่ะ แต่มันก็อันตรายพอดู ถ้าเราพลาดหรือ เบรกไม่อยู่ ก็อาจจะพาให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย เพราะข้างทางนั้น ไม่ใช่ ทางธรรมดา แต่เป็น ทางลาดชัน ถ้าพลาด ก็อาจตกเขาไปได้ทันที คิดได้ดังนั้น ก็เลยต้องยืดตัวขึ้นและกลับมาเดินให้เป็นปกติเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
สถานีทวนสัญญาณ
พวกเราเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆ ในที่สุดก็มาถึงบริเวณ สถานีทวนสัญญาณที่ ดอยสันยาว ประตูทางออกที่เชื่อมระหว่างป่ากับเมือง ก่อน 4 โมงเย็นเล็กน้อย นับว่าทำเวลาได้ดีทีเดียว วันนี้ แทบจะไม่ได้ถ่ายรูป เก็บภาพแห่งความทรงจำกันเลย เพราะเส้นทางเดินค่อนข้างอันตราย ไม่ค่อยมีที่หยุดให้พัก ประกอบกับ กลัวว่า จะถึงสถานีทวนสัญญาณค่ำ ซึ่งจะสร้างความยากลำบากในการเกิดทาง จึงรีบเดิน ให้เร็วที่สุด 3 วัน 2 คืน สำหรับการเดินทางพิชิตยอด ดอยลังกาหลวง ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับติดปีก