ปักธง!! "ดอยอินทนนท์ ตอนที่ 2" - สูงสุดแดนสยาม ชมตะวันยามเช้า สักการะพระธาตุ และลัดเลาะเส้นทางธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
วันที่ 2 นี้ ทีมงานตั้งปลุก ไว้ ตี 3 เพื่อที่จะขึ้นไป ชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่บนยอด ดอยอินทนนท์ ที่ใครต่อใครบอกว่า สวยยิ่งนัก!! แต่อุปสรรคอีกอย่างนึง ของ ทีมงานของเราคือ ไม่มีรถที่จะขึ้นไปยอดดอย อีกเกือบ 20 กิโลเมตร ประกอบกับช่วงเวลาที่จะขึ้นดอยนั้น ยังมืดมิ
อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาหนาวโคตรๆ
วันที่ 2 นี้ ทีมงานตั้งปลุก ไว้ ตี 3 เพื่อที่จะขึ้นไป ชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่บนยอด ดอยอินทนนท์ ที่ใครต่อใครบอกว่า สวยยิ่งนัก!!
แต่อุปสรรคอีกอย่างนึงของ ทีมงานของเราคือ ไม่มีรถที่จะขึ้นไปยอดดอย อีกเกือบ 20 กิโลเมตร ประกอบกับช่วงเวลาที่จะขึ้นดอยนั้น ยังมืดมิดอีกด้วย ทีมงานออกจาก ตัวอุทยานฐานที่พัก มายังถนนใหญ่ เกือบ 200 ม. ได้ เหลือบมองดูปรอทวัดอุณหภูมิ เวลาเกือบ ตี 3 กว่าๆ นั้นช่างเย็นถึงไขสันหลังจริงๆครับ
เพราะต่ำกว่า 10 องศา หมวกคลุมหัว เสื้อ 2 ชั้น กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น กระบอกไฟฉาย ที่แสงรำไรเหมือนแสงที่ตูดหิ่งห้อย เดินไปตามถนน เพื่อที่จะขึ้น บนยอด
ดอยอินทนนท์
อันหนาวเหน็บ!!!
ทีมงานเดินทางขึ้น ดอยอินทนนท์ ด้วยเท้าเปล่า ท่ามกลางแสงไฟอันมืดมิดสนิท โบกรถ คันแล้วคันเล่า ผ่านไปโดยไม่จอด ให้ขึ้น เดินไปเกือบ 7 กิโลได้ ก็มีรถกระบะใจดี จอดให้ขึ้น ไม่งั้นเศร้าครับ
จนแล้วจนรอด!! เราก็ได้ชม พระอาทิตย์ ขึ้นจากขอบฟ้า จากจุดชมวิว ช่างสวยงามจริงๆ ครับ แถม อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงจุดที่สูงสุดของ ดอยอินทนนท์แล้ว.
พระอาทิตย์ขึ้นบน ดอยอินทนนท์
พื้นที่ว่างๆ จอดเฮลิคอปเตอร์
นี่สิ!! ทะเลหมอกของจริง!
เกือบ 7 โมงครึ่ง บนยอดดอยอินทนนท์ จุดที่เรียกว่าสูงสุดของประเทศไทย เราก็มาถึงสักที อย่างแรก ที่ "ต้องห้ามพลาดไปหากาแฟสักแก้ว และ แซนวิส สักอัน กินให้ได้ครับ แค่นี้ ก็สุขีๆๆแล้วครับ!!"
เมื่อได้ถ่ายรูป และ เก็บข้อมูลจนหน่ำใจกับดอยอินทนนท์แล้ว เดินลงมาอีกซะหน่อย จะเห็นป้ายบอกว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อ่างกา
ทางลงเล็กๆ เดินลัดเลาะไปตามแมกไม้ ที่มีการสร้างสะพานไม้ อย่างดี สำหรับคนที่ชอบเดินป่า ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ!!
7 โมงกว่ายังหนาวอยู่เลย
มีตู้ไปรษณีย์ด้วย อย่าลืมส่งล่ะ!
เดินมานิดเดียวจะเห็นป้ายนี้
ห่างกันไม่กี่กิโล เราโบกรถลงมาเพื่อที่จะมา ชม 2 พระธาตุอันยิ่งใหญ่ ที่สวยจับใจ บนดอยอินทนนท์ อีกจุดหนึ่งก็คือ พระธาตุนภเมทนีดล และ พระธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งความอลังการ ของ 2 พระธาตุนี้ ก็คือ อยู่ใกล้ๆ ทั้งความยิ่งใหญ่ ความสวยงาม และ สถานที่ตั้ง ไม่แพ้กันเลยจริงๆ ครับ
พระธาตุนภพลภูมิสิริ
พระธาตุนภเมทนีดล
ด้วยความบ้าพลัง!! ของทีมงาน เราทั้งอึด ทั้งอดทน กางแผนที่ แล้วเห็นว่า มีอีกจุดที่น่าสนใจ คือ เส้นทางธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน ซึ่งห่างกันไปไม่กี่กิโล จึงตัดสินใจไปที่นั่นทันที!!
ทางเข้าไม่ใช่เข้าไปง่ายๆ น่ะครับ ต้องเสียตังค์ ให้กับ เจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะนำทางพาทีมงานเข้าไป ตอนแรกก็งง... ว่าทำไมต้องเสียด้วย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังภายหลังว่าทำไมครับ!!
เดินเข้าไปเหนื่อยเอาการ
ทุ่งอัลไพน์! อันเลื่องชื่อ
ตกไป!! ไม่ต้องหาน่ะครับ.. อึ๋ย.ย.
เมื่อเดินเข้าไปเหมือน เดินทางไกล ของลูกเสือยังไงยังงั้นเลยครับ ขึ้นๆ ลงๆ เห็นรอยเท้าหมี เสือ กวาง ฯลฯ แล้วก็ยังมี ต้นไม้แปลกๆ ไม่คุ้นตา อีกเยอะเลย
แล้วที่จุดไฮไลท์ สำคัญ ต้องผ่านก็คือ จุดชมวิว ทุ่งอัลไพน์ ที่มีทุ่ง ดอกไม้สีขาวๆ ดอกเล็กๆ เต็มพื้นที่ สวยมาก จริงๆ ครับ ถ้าใครดูหนังเรื่อง รักจัง ที่มี พอลล่ากับ ฟิล์ม- รัฐภูมิเล่นก็คงต้องรออ๋อ!!!... แน่ๆๆครับ
แถวตอนเรียงหนึ่ง! เดินเลาะไหล่เขา
ต้นดอกกุหลาบพันปี
คือ เส้นทางในกิ่วแม่ปานนี้ แปลกอยู่อย่างนึงครับ เมื่อเราเดินขึ้นจนสุดภูเขาแล้วก็จะต้องเดินลัดเลาะ ลงมาตามทิวเขา ที่สามารถ เห็นเวิ้ง ภูเขาที่อยู่ข้างล่างได้ถนัดตายิ่งนัก ถ้าลื่นหรือพลาดลงไปแล้ว ไม่ต้องหาน่ะครับ ขนาดหินก้อนใหญ่ๆ มองลงไปเล็กเท่ากำปั้นได้มั่ง... นี่คง
แปลกแต่จริง!! ต้นไม้เหมือนหนอนชาเขียว อิม-เม-โจ-ตั๋ยย..
เป็นคำตอบว่า "ทำไมจึงต้องมีเจ้าหน้าที่มาด้วย!!"
เผลอแว้ปป..เดียว!!! กว่าจะลงมาถึงข้างล่างได้ เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว ก็เลยอาบน้ำ ในอุทยานเพราะเหม็นเหงื่อไคล้ เต็มที ซัดเข้าไป ขันแรก แทบร้อง!! .. . เพราะว่า น้ำเย็นโคตรๆ เย็นเข้าไปถึงไขสันหลัง ลึกลงไปในกระดูกได้เลยมั่งเนี่ย เพราะอาบน้ำไป ไอออกปากไป สุดจะบรรยายจริงๆ ครับ
พอใกล้ค่ำ เราเตรียมเสบียง ที่เตรียมไว้ พร้อมกับ ไปหาซื้อเพิ่มเติม บางส่วน กะว่าคืนนี้ จะซัดลูกชิ้นปิ้ง หมูปิ้ง ฯลฯ ให้หน่ำใจ เพราะว่ามีเตาไฟให้เช่า พร้อมถ่านดำๆ มากพอที่จะให้โซโล้ ได้ทั้งคืน.. หวานปากล่ะคืนนี้ อิอิ...
(tip trip : อาหารสดเช่นลูกชิ้นปิ้ง หมูยอฯลฯแถวนั้นหาซื้อได้ บริเวณก่อนถึงอุทยาน)